วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

มาร์หน้า




 
      
01 วิธีมาร์คหน้า สูตร แตงกวาขั้นตอนการทำ ปอกเปลือกแตงกวาลูกเล็ก ๆ หนึ่งลูก เอาใส่เครื่องปั่นจนเป็นเนื้อเนียนนุ่ม กรองเอาแต่น้ำเก็บเอาไว้ จากนั้น เอาน้ำชาเขียวและชาคาโมมายล์อย่างละสองออนซ์กับเจลาตินหนึ่งห่อ ตั้งไฟอ่อนๆ จนเจลาตินละลาย เติมน้ำแตงกวาลงไป คนให้ส่วนผสมเข้ากันดี แล้วเทใส่ภาชนะแก้วเก็บไว้ในตู้เย็นราว 25 นาที จนเริ่มเป็นส่วนผสมข้นๆ นำเอาส่วนผสมนี้มาทาให้ทั่วหน้า ปล่อยให้แห้ง 20 นาที ลอกมาสก์ออก แล้วล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น ซับให้แห้ง แตงกวามีคุณสมบัติเป็นแอสตริงเจนต์อ่อน ๆ ที่ทำให้ผิวเย็นลง จึงดีเป็นพิเศษกับผิวอักเสบ เป็นผื่นแดง หรือไหม้แดด 
02 วิธีมาร์คหน้า สูตร มะเขือเทศขั้นตอนการทำ เริ่มด้วยการฝานมะเขือเทศ 1 ชิ้นหนาๆ ถูให้ทั่วใบหน้าและลำคอเบาๆ ตรงบริเวณที่มีสิวเสี้ยน มะเขือเทศมีวิตามินซี และกรด AHA จะช่วยลอกผิวหน้าที่ตายแล้วให้หลุดออกได้ หลังจากนั้นจึงค่อยใช้สำลีชุบน้ำเย็น เช็ดมะเขือเทศออกให้สะอาด 
03 วิธีมาร์คหน้า สูตร ไข่ขาวขั้นตอนการทำ ตอกไข่ไก่ 1 ฟอง แยกไข่แดงออกเทเฉพาะไข่ขาวลงในถ้วย ใช้ส้อมตีไข่ขาวจนเป็นฟองพอสมควร แล้วใช้แปรงขนนุ่ม จุ่มไข่ขาวทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จนไข่ขาวเริ่มจับตัวแข็ง แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น 
04 วิธีมาร์คหน้า สูตร น้ำผึ้งขั้นตอนการทำ เริ่มจากล้างหน้าให้สะอาด แล้วเช็ดให้แห้ง จากนั้นใช้ปลายนิ้วแตะน้ำผึ้งลูบไล้บนใบหน้าและลำคอเบาๆ สักครู่ แล้วนวดหน้าด้วยปลายนิ้วอย่างแผ่วเบาประมาณ 6 นาที จนน้ำผึ้งเหนียว นวดต่อไปไม่ได้แล้ว ก็ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ระหว่างนั้นให้นอนพักศีรษะอยู่ต่ำกว่าระดับปลายเท้า เพื่อให้เลือดไหลมาหล่อเลี้ยงที่ใบหน้าและลำคอได้สะดวกยิ่งขึ้น เมื่อครบเวลาแล้วก็ค่อยๆ ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดน้ำผึ้งออกให้สะอาด 
05 วิธีมาร์คหน้า สูตร แอปเปิลขั้นตอนการทำ ปอกแอปเปิลแล้วคว้านเอาไส้และเมล็ดออก จากนั้นบดให้ละเอียด ขณะที่บดให้ผสมน้ำผึ้งลงไปด้วย เมื่อบดจนเข้ากันดีแล้ว นำเอาส่วนผสมนี้มาพอกหน้าทิ้งไว้ 25 นาที แล้วใช้นมสดเย็นๆ ล้างออก 
06 วิธีมาร์คหน้า สูตร นมเปรี้ยวขั้นตอนการทำ สำหรับผู้ที่มีผิวหน้ามัน ล้างหน้าให้สะอาดก่อนจะเอานมเปรี้ยวที่แช่เย็นจัดพอกหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีหรือนานกว่านั้น แล้วใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ เช็ดออก ตำรานี้จะใช้ได้ผลดีมากในหน้าร้อน เพราะจะช่วยให้ใบหน้าที่ซีดเซียวกลับเปล่งปลั่งขึ้นได้ 
07 วิธีมาร์คหน้า สูตร แตงโม
ขั้นตอนทำ จัดการฝานแตงโมเป็นชิ้นบางๆ จากส่วนที่แดงที่สุด นำมาแปะให้ทั่วใบหน้า แล้วใช้ผ้าขาวบางคลุมหน้าไว้ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น
08 วิธีมาร์คหน้า สูตร น้ำมะนาว ผสม น้ำผึ้ง
ขั้นตอนทำ ด้วยการผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำมะนาว 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน แล้วนำมาทาให้ทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น 
09 สูตรลดสิว ด้วยมะเขือเทศ
   1. ปอกเปลือกมะเขือเทศ ฝานเป็นแผ่นๆ เอาเมล็ดออก
   2. นำไปปั่นให้ละเอียด (ถ้าไม่มีเครื่องปั่น จะใช้วิธีขยำจนกระทั่งเนื้อมะเขือเทศเละ ไม่จับเป็นก้อน ก็ใช้ได้เหมือนกัน)
   3. ทาลงบนหัวสิว (ระวังอย่าให้เข้าตา) ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
         TiPS - ในกรณีที่คุณเป็นคนที่ผิวแพ้ง่าย หรือยังไม่แน่ใจว่าจะแพ้หรือเปล่า ให้ลองเทสต์กับท้องแขนก่อน ถ้ามีอาการแสบผิดปกติ ให้ล้างออกทันทีและไม่ควรใช้กับผิวหน้า - กรด" ในมะเขือเทศ จะช่วยทำความสะอาดรูขุมขน และลดการเกิดสิว 
10 สูตรรักษาฝ้าด้วยมะขามเปียก
คั้นน้ำมะขามเปียก ให้ค่อนข้างใสสักหน่อย ตั้งไฟอ่อน รอจนสุกจึงใส่น้ำผึ้งลงไปคนให้เข้ากัน ขั้นตอนนี้ต้องทำพร้อมกัน คือมือหนึ่งเท อีกมือก็คนให้ทั่ว นำมาทาหน้าวันละ 1 ชั่วโมง ช่วยรักษาฝ้า และทำให้ผิวหน้านวลใสขึ้นค่ะ 
11 สูตร Cleanser สำหรับทุกสภาพผิว
โยเกิร์ต 1/2 ถ้วย
น้ำมันดอกทานตะวัน 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1 1/2ช้อนโต๊ะ (คั้นสด ๆ )
นำส่วนผสมทั้งหมด มาผสมให้เข้ากัน พอกให้ทั่วหน้าทุกเช้าและก่อนนอนแล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะช่วยทำความสะอาดผิวหน้า ได้อย่างล้ำลึกและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอีกด้วยค่ะ
13 วิธี มาร์คหน้า ลดสิวเสี้ยน
ถั่วเขียวต้ม 2 ช้อนโต๊ะ
สตรอเบอร์รี่ผลโต 2 ผล (ผลเล็ก 4 ผล)
นมเปรี้ยว 1/2 ช้อนโต๊ะ
   1. ต้มถั่วเขียวให้สุกกำลังดี แล้วตักใส่ถ้วยใบเล็กๆ ไว้
   2. ใช้น้ำอุ่นๆ ล้างหน้าให้สะอาดด้วยสบู่หรือโฟมล้างหน้า เช็ดซับหน้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนูนุ่มๆ ใช้หมวกคลุมผมสำหรับอาบน้ำคลุมศีรษะไว้ หรือใช้ที่คาดผมเพื่อเก็บเส้นผมไม่ให้หล่นปรกใบหน้า
   3. ใช้ช้อน หรือส้อมบดๆ ยีๆ ถั่วเขียวต้มสุกและสตรอเบอร์รี่ให้ละเอียด นำทั้ง 2 มาผสมกัน ตีๆ ยีๆ ให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน เติมนมเปรี้ยวผสมลงไป 1 ช้อนชาครึ่ง หรือ 1/2 ช้อนโต๊ะ ถ้ามีเครื่องปั่นให้ปั่นถั่วเขียวต้ม และสตรอเบอร์รี่ และนมเปรี้ยวพร้อมๆ กัน แต่ไม่ต้องให้ละเอียดมากนัก
   4. นำส่วนผสมที่ได้มา ทาให้ทั่ว ผิวหน้า เว้นรอบๆ ริมฝีปากและรอบดวงตาไว้ พอกทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที และล้างทำความสะอาดหน้าด้วยน้ำอุ่นๆ กับสบู่หรือโฟมล้างหน้า
       TiPS สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวเสี้ยน กระ ฝ้า จุดด่างดำ ริ้วรอยต่างๆ ที่เป็นรอยยับย่น มาร์คสูตรนี้ช่วยให้ใบหน้าขาวนวล เกลี้ยงเกลา ใสสะอาดอย่างน่าอัศจรรย์ หมั่นทำเป็นประจำทุกๆ วันกันนะคร๊า
14 สูตรมาร์คหน้าเพื่อผิวกระชับ
มันฝรั่งป่น 2 ช้อนโต๊ะ และ น้ำอุ่น
   1. เทน้ำอุ่นช้าๆ ลงในถ้วยที่ใส่มันฝรั่งป่นและคนให้เข้ากันจนข้น
   2. ก่อนมาส์กหน้าให้ใช้ครีม หรือน้ำมันเบบี้ออยล์เล็กน้อยทาใบหน้าบางเบาให้ทั่ว จากนั้นใช้พู่กันจุ่มมันฝรั่งข้นทาทั้งใบหน้าและลำคอ (ยกเว้นรอบดวงตาและลำคอด้านหลัง) 
   3. ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ใช้ผ้าอุ่นชื้นประคบใบหน้าให้มาส์กอ่อนตัว(จนกว่ามันฝรั่งจะนิ่ม) แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น TiPS การมาส์กหน้าด้วยมันฝรั่งป่นจะช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้เลือดไหลเวียนดีและทำให้ผิวกระชับเต่งตึง แต่จะทำให้ผิวแห้ง ดังนั้นจึงไม่ควรมาส์กหน้า ด้วยมันฝรั่งบ่อยเกินไป 
15 สูตรมาร์คหน้า ลอกสิว
ส่วนประกอบ
    1. ไข่ขาว    2. พิมเสน   3. สำลี ชนิดแผ่น
นำไข่ไก่เอาแต่ไข่ขาว ใส่ด้วย ใส่พิมเสนลงไปนิดหน่อยมันจะดับกลิ่นคาว แล้วทำให้หน้าเย็นๆ แต่อย่าใส่เยอะนะ (เดี๋ยวจะเย็นจนทนไม่ไหว อิอิ) คนให้เข้ากัน ลอกสำลีให้บางๆ จากนั้นก็เอาไข่ขาวที่เตรียมไว้ทาหน้ารอบนึง แปะทับด้วยสำลี เสร็จแล้วทาไข่ขาวทับสำลีให้ชุ่ม ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งสนิท แล้วลอกจากคางขึ้นมาแล้วล้างออก แล้วทีนี้สังเกตุที่สำลีที่ลอกออกมาดูดิ อืม...มันชั่งเยี่ยมไปเลย 



1 สูตรสำหรับดูแลผิวแห้ง
     น้ำมันมะกอก + เกลือ + ผลสตรอว์เบอรี่สด
    1. ผสมน้ำมันมะกอกกับเกลือ (ควรใช้เกลือเม็ดเล็กๆ หรือเม็ดที่ไม่คม ไม่หยาบจนเกินไปค่ะ เดี๋ยวมันจะบาดผิวเรา) เข้าด้วยกัน
    2. ใส่สตรอว์เบอรี่ที่ใช้ช้อนบี้ๆ บดๆ จนเละแล้วลงไป
    3. คนๆ ให้เข้ากัน ใช้เป็นสครับสำหรับขัดผิวกาย เพื่อให้ความชุ่มชื้น ทำให้ผิวสดใส และเต่งตึงขึ้นด้วยค่ะ 
2 สูตรดูแลผิว เพื่อ ผิวเนียนนุ่ม
     ว่านหางจรเข้ 2 ใบ(ใบใหญ่) + ใบชะพลู 10 ใบ + ไข่ไก่ 1 ฟอง
นำว่านหางจรเข้มาปอกเปลือกแล้วล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นนำใบชะพลูที่ล้างสะอาดแล้ว มาหั่นหยาบๆ แล้วนำส่วนผสมทั้ง 2 อยางลงเครื่องปั่น ใส่ไข่ไก่ลงไป... ปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วพอกหน้าทิ้งไว้ 8-15 นาที แล้วล้างออก ผิวหน้าก็จะเนียน ลื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 

บิสกิต เค้ก ขนมปังนื่ม ของหวานนำโรคสู่สาวๆ


บิสกิต เค้ก ขนมปังนิ่ม ของหวานนำโรคสู่สาว ๆ


เค้ก

บิสกิต เค้ก ขนมปังนิ่ม ของหวานนำโรค (Woman Plus)

          คุณรู้หรือไม่ว่า...จากการวิจัยของมหาวิทยาลัยในประเทศสวีเดน ที่ศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมการกินอาหารของผู้หญิงหกหมื่นคน เกี่ยวกับความเกี่ยวข้องระหว่างการกินน้ำตาลกับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเนื้องอกในมดลูก พบว่า บิสกิต เค้ก หรือขนมปังนิ่ม ซึ่งเป็นของโปรดของสาว ๆ หลายคนนั้น หากกินอย่างต่ำ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ มีโอกาสเป็นมะเร็งมดลูกมากขึ้น 33%

          และสำหรับสาว ๆ ที่โปรดปรานขนมพวกนี้มาก ๆ ขนาดที่ว่าทานมากกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็มีโอกาสเป็นโรคเกี่ยวกับเนื้องอกมากขึ้นถึง 42% เลยทีเดียว เนื่องจากเมื่อร่างกายของเรามีระดับน้ำตาลที่สูงเกิน ร่ายกายก็จะผลิตอินซูลินเพิ่มขึ้น เพื่อให้ช่วยกำจัดน้ำตาลส่วนเกิน ส่งผลให้เซลล์ในช่องคลอดเจริญเติบโตผิดปกติ ซึ่งนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งได้ ขณะที่อีกทฤษฎีหนึ่งเชื่อว่า น้ำตาลจะกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งส่งผลให้เซลล์เจริญเติบโตผิดปกติได้ด้วย

          ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำว่า วิธีป้องกันไม่ให้เป็นโรคมะเร็งที่ดีที่สุด คือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และควบคุมน้ำหนักเป็นประจำ เพราะฉะนั้น สาว ๆ คนใดที่มีบิสกิต เค้ก หรือขนมปังนิ่มเป็นของโปรด ก็คงต้องลดปริมาณการกินและหมั่นออกกำลังกายด้วยนะคะ

ครั้งต่อไปที่คุณล้างยาทาเล็บออก ก็อย่าลืมดูสภาพเล็บของคุณด้วย เพราะสภาพเล็บบางอย่างก็บ่งบอกว่าคุณกำลังมีปัญหาด้านสุขภาพ
เล็บเหลือง : โดยส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการทาเล็บสีเข้มๆ โดยไม่ยอมทาน้ำยารองพื้นเล็บก่อน ซึ่งถ้าคุณหยุดทาเล็บซักสองสามวัน อาการเล็บเหลืองนั้นก็จะดูจางลงได้ แต่ถ้าผ่านไปแล้วหนึ่งสัปดาห์ อาการเล็บเหลืองยังไม่หาย (รวมทั้งมีอาการบวมแดงร่วมด้วย) ก็อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อรา ซึ่งคุณควรไปพบแพทย์โดยด่วน

เล็บลอก : เล็บของคนเราประกอบด้วยเคราตินที่ซ้อนทับกันหลายชั้น แต่เวลาที่โดนน้ำหรืออากาศเย็นๆ ผิวเล็บชั้นบนสุดก็จะเกิดอาการแยกตัวจนลอกออกมา ซึ่งโดยปกติการใช้ครีมทามือและยาทาเล็บ ก็จะช่วยตรึงผิวเล็บเอาไว้ได้ แต่ถ้ายังลอกอย่างต่อเนื่อง ก็อาจเป็นสัญญาณที่ร่างกายขาดกรดไลโนเลอิก คุณจึงควรใช้น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันงาประกอบอาหารให้มากขึ้น

เล็บเขียวช้ำ : ถ้าอยู่ๆ เล็บของคุณดูเขียวช้ำโดยไม่ได้โดนอะไรกระแทก ก็ควรไปพบแพทย์ด่วน เพราะนั้นเป็นสัญณาณที่บ่งบอกว่าคุณได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ