วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ดีท็อกซ์ลางพิษด้วยสมุนไพร


ดีท็อกซ์ ล้างพิษ ด้วย! สมุนไพร ผัก ผลไม้

วันนี้นเราจะพาคุณมาล้างพิษในลำไส้ด้วยการดีท็อกซ์ ล้างพิษ ด้วย สมุนไพร ผัก ผลไม้ ต่อไปนี้ที่เรากำลังจะแนะนำค่ะ สมุนไพรไทยที่เป็น ผัก ผลไม้ สามารถช่วย ดีท็อกซ์ ล้างพิษ ได้มากมาย และไม่เพียงเท่านั้นยังมี ผัก ผลไม้ ของต่างประเทศที่จะมาช่วยคุณในการดีท็อกซ์ ล้างพิษ กันอีด้วย ผักและผลไม้ต่างๆ จัดว่าเป็นอาหารที่วิเศษกันอยู่แล้วนอกจากจะมีประโยชน์ มีกากใยและสารอาหารที่มากโขน อกจากนั้นยังเป็นอาหารดีท็อกซ์ ล้างพิษ ชั้นดีเยี่ยมยอดอีกด้วย ฮัน...แน่...คงอยากจะรู้กันแล้วใช่ไหมค่ะว่าจะมี สมุนไพร ผัก ผลไม้ชนิดใดกันบ้างที่จะมาช่วยในการดีท็อกซ์ ล้างพิษ อย่างได้ผลใช่ไหมล่ะค่ะ นั้นเราไม่รอช้ามาดูกันเลยดีกว่าค่ะ อ๋อ...เคล็ดลับในการล้างสารพิษ ควรทานให้ได้อย่างน้อยวันละ 5 ส่วนบริโภค (1 ส่วนบริโภค = 1 ถ้วยตวง หรือ 240 มิลลิลิตร) ถึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุด

ดีท็อกซ์ ล้างพิษ ด้วย 10 สมุนไพร ผัก ผลไม้

1. หน่อไม้ฝรั่ง

นำไปนึ่งหรือต้มสักครู่จนนิ่มราดด้วยน้ำมันมะกอกเล็กน้อย บีบน้ำมะนาวลงไป ก็จะได้อาหารเรียกน้ำย่อย หรือเครื่องเคียงที่อุดมด้วยกรดอะมิโนที่เรียกว่า แอสพาราจีน (asparagine) รวมถึงโพแทสเซียมที่ช่วยขับปัสสาวะและทำความสะอาดอวัยวะภายในช่วยไตขับสารพิษ และการบวมน้ำโดยเฉพาะช่วงก่อนมีประจำเดือน


2. บีทรูท

เป็นที่รู้จักว่าช่วยล้างสารพิษในเลือด บีทรูทมีสารเบทาไซอานิน (betacyanin) ซึ่งเป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและช่วยกระตุ้นการทำงานของกระบวนการล้างสารพิษในตับ นำไปอบกับน้ำมันมะกอกเล็กน้อย ราดด้วยน้ำส้มสายชูบัลเซมิกเล็กน้อยจะช่วยให้รสชาติดี แต่ถ้าต้องการให้ได้รับวิตามินครบถ้วน ควรกินดิบๆ โดยนำไปขูดฝอยกินเป็นสลัด


3. เบอร์รี่

บลูเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ ราสพ์เบอร์รี่ และแบล็กเบอร์รี่ อุดมไปด้วยแอนตี้ออกซิแดนท์ต่อสู้กับสารพิษ โดยเฉพาะบลูเบอร์รี่ช่วยให้หลอดเลือดดำและหลอดเลือดแดงแข็งแรง จึงทำให้ออกซิเจนและสารอาหารจำเป็นเข้าสู่ร่างกายได้ในปริมาณมากนำไปทำเป็นสมูธตี้หรือสลัดผลไม้


4. บร็อกโคลี

มีสรรพคุณต่อต้านมะเร็งเนื่องจากมีวิตามินซีสูง บร็อกโคลียังอุดมด้วยสารกลูโคซิโนเลต (glucosinolates) เช่นเดียวกับสารชัลโฟราเฟน (sulforaphane) ซึ่งจะช่วยตับขับสารพิษรับประทานดิบๆ โดยนำดอกบร็อกโคลีจิ้มกับซัลซ่าหรือฮุมมุส (hummus - ทำจากถั่วชิกพีผสมงาและกระเทียมราดด้วยน้ำมันมะกอก) จะนำไปผัดหรือนึ่งเสิร์ฟกับปลาย่าง

ดีท็อกซ์ ล้างพิษ ด้วย สมุนไพร ผัก ผลไม้


5. กะหล่ำปลี

กะหล่ำปลีแดง ผักกาดขาว กะหล่ำปลี หรือผักกวางตุ้งไต้หวัน (bok choy) เป็นอาหารดีท็อกซ์ชั้นยอด ทำเป็นสลัดหรือนำไปผัดหรือนำไปต้มและผัดเร็วๆ ด้วยไฟแรงในน้ำมันมะกอก


6. มะนาว (lemons)

สีเหลืองของมะนาวมาจากการที่มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่เรียกว่า ไบโอฟลาโวนอยด์อยู่สูงจึงช่วยการทำงานของตับได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยในการล้างสารพิษ บีบมะนาวลงในน้ำร้อนดื่มเป็นอย่างแรกหลังตื่นนอนตอนเช้า หรือนำไปคั้นผสมกับส้มและเกรฟฟรุตดื่มเพิ่มความสดชื่น


7. ลินสีด (Linseed) หรือ เมล็ดแฟล็กซ์

นอกจากอุดมด้วยกรดไขมันจำเป็นแล้ว ลินสีดยังช่วยล้างลำไส้และทำให้ขับถ่ายเป็นปกติ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการล้างสารพิษให้แช่เมล็ดลินสีด 1 ช้อนโต๊ะในน้ำ 1 แก้ว ทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมง แล้วดื่มจนหมดแก้ว หากไม่ชอบรสชาติให้นำไปปั่นรวมกับผลเบอร์รี่ ทำเป็นสมูธตี้ หรือนำเมล็ดไปบดแล้วโรยบนผลไม้หรือสลัด


8. พริก

อาหารที่มีสีสดใสเช่น พริก และ มะเขือเทศ อุดมด้วยแอนตี้ออกซิแดนท์ในการล้างสารพิษช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่ทำให้เซลล์เสื่อม เสริมสร้างภูมิต้านทานโรค สารประกอบแคปไซซิน (capsaicin) ในพริกทำให้โลหิตไหลเวียนดีและช่วยการทำงานของระบบย่อยอาหาร เมนูดีท็อกซ์ของคุณควรประกอบไปด้วยอาหารสีสันสดใสหลากหลายชนิดเพื่อให้แน่ใจว่าได้รับแอนตี้ออกซิแดนท์ที่หลากหลาย


9. มะละกอ และสับปะรด

มะละกอมีสารปาเปน (papain) ส่วนสับปะรดอุดมไปด้วยบรอมีเลน (bromelain) สารทั้งสองชนิดนี้เป็นเอนไซม์ที่ช่วยในการย่อยโปรตีนและกระตุ้นให้ร่างกายขับของเสียผ่านทางอวัยวะที่มีหน้าที่กำจัดของเสีย สับปะรดมีสรรพคุณเป็นยาขับปัสสาวะอ่อนๆ ซึ่งสารพิษจะถูกขับออกมาทางปัสสาวะนำผลไม้ทั้งสองชนิดนี้มาหั่นเป็นชิ้นๆ กินเป็นอาหารเช้าหรือของหวานหรือนำไปบดกับผักชี กระเทียมสับ พริกแดง ต้นหอม แตงกวา และมะเขือเทศ ตามด้วยน้ำมะนาวทำเป็นซัลซารสชาติอร่อยกินคู่กับปลานึ่ง


10 ผักสลัดน้ำ หรือ วอเตอร์เครส

เช่นเดียวกันบร็อกโคลี วอเตอร์เครส เป็นแหล่งที่อุดมด้วยไปด้วยกลูโคซิโนเลตที่ช่วยกระตุ้นเอนไซม์ดีท็อกซ์ของตับ นอกจากนี้ยังมีแมกนีเซียมและแคลเซียมสูงจึงช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงใช้เป็นอาหารทางเลือกแทนผักกาดหอมหรือปรุงเป็นซุปวอเตอร์เครส

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Health Plus ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

สรรพคุณ และ ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์


สรรพคุณ และ ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์

เกร็ดน่ารู้ของเราในวันนี้คือประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ อย่างที่รู้ๆ กันดีว่าสมุนไพรของไทยล้วนแต่มีประโยชน์ทั้งสิ้นแต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่ามะพร้าวก็เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรของไทยที่มีประโยชน์ไม่แพ้อย่างอื่นเหมือนกันน๊า... วันนี้เราก็เลยไปนำเอาเกร็ดความรู้ดีๆ เกี่ยวกับ ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ และ สรรพคุณของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ มาฝากกันค่ะ มะพร้านอกจากจะนำมารับประทานแล้วประโยชน์ที่เราเห็นได้ชัดนั้นก็คือการทำน้ำมันมะพร้าวและ สรรพคุณของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ มีมากมายหลายหลาย และที่สำคัญ ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ ยังทำเป็นเครื่องสำอางค์จากธรรมชาติที่มีความปลอดภัยเป็นอย่างมาก แต่ว่า ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ และ สรรพคุณของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ ยังไม่ใช่หมดเพียงเท่านี้ยังมีอีกมากมาย ถ้าอยากรู้แล้วเราก็เข้าไปดู ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ และ สรรพคุณของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ ที่ดีๆ กันเลยดีกว่านะค่ะ

น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ คือ ...

น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ คือ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นโดยไม่ผ่านความร้อน (cold press coconut oil) ผลิตจากเนื้อมะพร้าวสดเป็นน้ำมันมะพร้าวที่บริสุทธิ์ที่สุด สีใสเหมือนน้ำมีวิตามินอีและไม่ผ่านขบวนการเติมออกซิเจน (oxidation) และที่สำคัญกรดคลอริกในน้ำมันมะพร้าวมีกรดคลอริกอยู่ประมาณ 54.61% กรดนี้มีส่วนที่ทำให้น้ำมันมะพร้าวดีเด่นกว่าน้ำมันพืชชนิดอื่นๆ เพราะมันมีความสามารถพิเศษคือ สร้างภูมิคุ้มกัน เมื่อเราบริโภคน้ำมันมะพร้าวเข้าไปในร่างกายกรดคลอริกในน้ำมันมะพร้าวจะเปลี่ยนเป็นโมโนกลีเซอไรด์ที่มีชื่อว่า โมโนลอรีน ซึ่งเป็นสารตัวเดียวกับที่อยู่ในน้ำนมมารดาที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับทารกในระยะ 6 เดือนแรกที่ร่างกายยังไม่สร้างระบบภูมิคุ้มกันทำให้เด็กระยะแรกเกิดไม่ค่อยเป็นอะไร และยังสามมารถฆ่าเชื้อโรค ในโมโนลอรีนเป็นสารปฏิชีวนะที่ใช้อยู่ในปัจจุบันที่สามารถฆ่าเชื้อที่ก่อให้เกิดหลอดเลือดแข็งตัว

สรรพคุณ และ ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์


สรรพคุณ / ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์

1. ช่วยในการชะลอความชรา

- ช่วยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ
- ป้องกันการเหี่ยวย่นของผิวหนัง
- ป้องกันการเกิดกระและรอยคล้ำบนผิวหน้า
- ป้องกันไม่ให้ผิวแห้ง กระด้าง

2. ป้องกันผมหงอก

น้ำมันมะพร้าวสามรถช่วยลดปริมาณการสูญเสียโปรตีนของเส้นผม เพราะน้ำมันมะพร้าวสามารถยึดเกาะกับโปรตีนของเส้นผมจึงช่วยเสริมความแข็งแรง โดยการรักษาความชื้น และลดรอยแตกแยกในเส้นผมได้ดี

3. ช่วยป้องกันโรค

การบริโภคน้ำมันมะพร้าวเป็นประจำ(เลิกบริโภคน้ำมันไม่อิ่มตัว)จะช่วยแก้ สถานการณ์ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง อ่อนล้าของผู้สูงอายุ และสามารถลดโอกาสการเกิดโรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน ฯลฯ

4. โรคอ้วน

- ให้พลังงานน้อย
- ช่วยนำไขมันที่สะสมไว้มาใช้เป็นพลังงานน้ำมันมะพร้าวยังไปเร่งอัตราการเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงาน

5. กระตุ้นกิจกรรมทางเพศ

- ใช้แทนสารหล่อลื่นธรรมชาติ น้ำมันมะพร้าวเป็นสารธรรมชาติที่มีสมบัติคล้ายสารหล่อลื่นในช่องคลอด
- ใช้นวดเพื่อกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต